6 เทรนด์ บิวตี้มาแรง แซงทุกเทรนด์ในปี 2018
สำหรับเทรนด์ความงามในปี 2018 มีแนวโน้มว่าสินค้าความงามนั้นจะต้องลดการใช้น้ำอันเป็นทรัพยากรสำคัญลง ตามมาด้วยเทรนด์การใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่เข้าใกล้ความเป็น 100% ให้ได้มากที่สุด ส่วนอีกหนึ่งเทรนด์ที่น่าจับตามอง คือเทรนด์เครื่องสำอางสำหรับเด็ก โดยการวิจัยของ Mintel ระบุไว้ว่า เด็กอเมริกัน 80% ที่มีอายุระหว่าง 9-11 ขวบ ได้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ความงามที่ทำขึ้นมาเพื่อเด็กโดยเฉพาะ อาทิเช่น ลิปมัน โลชั่นที่มีกลิ่นหอม เป็นต้น
รายละเอียดเกี่ยวกับเทรนด์ความงามเหล่านี้เป็นอย่างไรบ้าง มาดูกันเลย !
1. Water … The New Luxury
ในอนาคตโลกจะเผชิญกับวิกฤตการณ์น้ำ น้ำจะกลายเป็นทรัพยากรที่หาได้ยากและกลายเป็นวัตถุดิบที่มีราคาสูงไปโดยปริยาย ส่งผลให้แบรนด์ต่างๆ จะต้องปรับตัว โดยเริ่มจากการปรับสูตรของผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้เป็นสูตรใช้น้ำน้อยไปจนถึงไม่ต้องใช้น้ำเลย เช่น Dry-Shampoo, สบู่ที่ไม่ต้องล้างออก และยาสีฟันที่ไม่ต้องล้าง เป็นต้น สำหรับในยุคต่อไป คาดการณ์ว่าสินค้าความงามเกือบทั้งหมดจะพัฒนารูปแบบไปสู่การที่ไม่ใช้น้ำอีกเลย
2. Gas-tronomia
จากผลสำรวจของมินเทล พบว่า 50% ของเพศชายในสหราชอาณาจักรเชื่อว่าผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่มีส่วนผสมและวัตถุดิบจากธรรมชาติให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าเครื่องสำอางค์แบรนด์ใหญ่ที่ผลิตในห้องแล็บ และอีกกว่า 42% ของผู้บริโภคชาวสหราชอาณาจักรเชื่อว่าการซื้อและใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติหรือผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกจะทำให้สุขภาพดีขึ้นและสภาพแวดล้อมของโลกดีขึ้นด้วย
นำมาซึ่งความนิยมของเทรนด์ความงามที่เรียกเล่นๆ ว่า ‘kitchen-beauty’ ที่หยิบเอาวัตถุดิบต่างๆ ในครัวมาใช้สำหรับเสริมความงาม และหันหลังให้กับสิ่งที่ผลิตขึ้นจากห้องแล็บ
3. Power Play
ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ที่เร่งรีบ และทำกิจกรรมหลากหลาย ทำให้ปัญหากวนใจเรื่องผิวพรรณเปลี่ยนจากยุคขาวกระจ่างใส ต้านริ้วรอยมาเป็นความกังวลเรื่องพลังงาน และความสดใสของผิวแทน จากรายงานของมินเทล ระบุว่า ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้ามากกว่า 12% เพิ่มส่วนประกอบสำคัญที่ช่วยเพิ่มพลังให้ผิว ผลงานวิจัยนี้ทำให้เห็นความต้องการของผู้บริโภคและโอกาสของแบรนด์ในอนาคต ที่จะผลิตสินค้าในกลุ่ม Energy-Boosting มากขึ้น
4. Digital Experience
เทคโนโลยีความงาม ทำให้ผู้บริโภครู้สึกได้ว่าตัวเองมีส่วนร่วมสำคัญในการจัดการกับความงามบนร่างกายตัวเองได้อย่างแท้จริง จากรายงานพบว่า 64% ของผู้บริโภคที่ต้องการสินค้าความงามนั้น มีความสนใจกับอุปกรณ์ความงามที่สร้างการมีส่วนร่วมกับพวกเขา รวมถึง ประสบกาณ์ดิจิตอลที่เกิดขึ้นในสโตร์ เช่น Virtual mirror, Vitual reality headsets และ Interactive Displays รวมถึงในซาลอนเช่นกัน
5. Kids Cosmetics
เนื่องจากกระแสการดูแลตัวเองและการเอาใจใส่ในรูปลักษณ์ได้ส่งผลต่อความต้องการของเด็กๆ ในอเมริกา การวิจัยของ Mintel ระบุไว้ว่า เด็กอเมริกัน 80% ที่มีอายุระหว่าง 9-11 ขวบ ได้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ความงามที่ทำขึ้นมาเพื่อเด็กโดยเฉพาะ อาทิเช่น ลิปมัน แป้งพัฟ โลชั่นที่มีกลิ่นหอม ฯลฯ ส่งผลให้ผู้ประกอบการเครื่องสำอางค์หันมาใส่ใจในความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคกลุ่มใหม่นี้มากขึ้น
6. Real Influencer
ปัจจุบันกลยุทธ์การใช้ Influencer รีวิวสินค้า หรือบริการ ได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ จนใครๆ ต้องจับตามมอง ซึ่งจุดเด่นของการทำการตลาดผ่าน Influencer ก็คือ การสื่อสารที่ดูเป็นธรรมชาติเหมือนไม่ใช่การโฆษณาที่สามารถสร้างความน่าเชื่อถือได้มากกว่าสื่อดั้งเดิม โดยผู้บริโภคเชื่อว่าการรีวิวเหล่านั้นเกิดจากประสบการณ์ตรงจากการใช้จริงมากกว่า
ข้อมูลอ้างอิง : https://positioningmag.com/1117057